Sunday, July 4, 2010

ต่ออายุหนังสือเดินทาง

สัปดาห์หน้าจะกลับเมืองไทย ความตั้งใจหลัก คือ กลับไปเยี่ยมบ้าน (คิดถึงบ้าน Y^Y)
ส่วนผลพลอยได้ (หรือเปล่า) คือ กลับไปต่ออายุหนังสือเดินทางด้วย

แต่ครั้นจะกลับไป แล้วตรงไปที่เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า หรือ เซ็นปิ่น เลย ก็กลัวว่าจะเอาเอกสารไปไม่ครบ
ก็จะไปเสียเที่ยวซะเปล่า ๆ คนยิ่งเยอะ ๆ อยู่ (ตามประสบการณ์ที่ผ่านมานานมากแล้ว -__-")
ประกอบกับได้ยินแว่ว ๆ มาว่า สำนักงานก็ย้ายออกจากเซ็นปิ่นไปแล้ว อยู่เลยไปหน่อย
ซึ่งคนที่บอกก็ไม่แน่ใจว่า เลยไปหน่อยเนี่ย หน่อยแค่ไหน และอยู่ตรงไหนกันแน่ - __ -"

เลยกูเกิล (กลายมาเป็นชื่อสามัญไปซะแล้ว เหมือนที่เรียก บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปทุกยี่ห้อว่า "มาม่า" )

เว็บแรกที่กดเข้าไปดู เป็นกระทู้ที่ตั้งใน พันธุ์ทิพย์
หัวข้อโดนใจใช่เลย
... แต่เจ้าของกระทู้ท่าทางจะเป็นคนดังในนั้น
คำตอบและการพูดคุยกันส่วนมาก จึงเป็นการสารทุกข์สุขดิบกันซะมากกว่า
ทว่าในที่สุด เจ้าของกระทู้ผู้ใจดี ก็เอาลิงค์ มาแปะไว้ให้เป็นอาณิสงฆ์กันต่อไป

http://www.mfa.go.th/web/458.php#2

โอ้ว .go.th ซะด้วย กดเลย ^O^

..................................................

ทำไมเข้าใจยาก ใช้ยากจัง เรียบเรียงเนื้อหาได้ ........ มาก
หรือเป็นเพราะเราเอง ถ้าใครได้เข้าไปดูก็ช่วยมาบอกเราด้วยนะ
ว่าเราคิดไปเอง หรือความรู้ไม่มากพอที่จะขอใช้บริการของรัฐบาล

พยายามกดโน่นกดนี่ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ต้องการ (รู้สึกเหมือนเป็นลิง)
ได้มาอีกสองสามหน้า
หน้านึงบอก ค่าธรรมเนียม 1,000 บาท สำหรับขอหนังสือเดินทาง
อีกหน้านึงบอก ค่าธรรมเนียม 1,000 บาท สำหรับขอหนังสือเดินทาง (เหมือนกัน)
สองย่อหน้าถัดลงมาหน้าเดียวกัน "ขั้นตอนการขอต่อหนังสือเดินทาง"
โอ้วววว ในที่สุด... เราก็พบกัน ^O^
ค่าธรรมเนียม 1,005 บาท รวมอากร o.O

อ้าว แล้วขอใหม่เลย ถูกกว่า 5 บาท เพราะไม่ต้องเสียค่าอากร
หรือค่าอากรแพงมาก เลยขออุบไว้ก่อน ค่อยบอกตอนที่ต้องจ่ายจริง
เพราะกลัวคนไม่มาขอทำหนังสือเดินทาง (ถ้าไม่มีขอที่นี่่แล้วไปขอได้ที่ไหนอีกเหรอ?)

อาจจะดูขี้บ่น (ก็จริง) แต่นี่เป็นหน่วยงานราชการ มีหน้าที่ให้บริการประชาชนทุกคน โดยไม่มีข้อยกเว้น
ให้ข้อมูลอะไรก็ควรจะให้ชัดเจน เข้าใจง่ายที่สุด เพื่อประชาชนทุกคน


แค่นี้ละกัน เขียนให้ใครก็ไม่รู้อ่าน นี่มันยากจริง ๆ ไม่เหมือนเขียนให้เพื่อน หรือเขียนไว้อ่านเองเลย
คงต้องพยายามเข้าใจคนที่เขียนเนื้อหาให้กับเว็บกระทรวงต่างประเทศซะหน่อยแล้ว
สู้ ๆ ละกันนะ เพื่อประชาชนตาดำ ๆ จุ๊บ ๆ

Tuesday, March 30, 2010

เงินไหลมา...

ช่วงสองเดือนที่ผ่านมา เป็นช่วงที่คิดมากเรื่องเงินซะเหลือเกิน (จนถึงตอนนี้ก็ยังคิดอยู่ แม้จะไม่มากเท่าเดิม)

สาเหตุหลัก ๆ ก็เพราะเงินเก็บร่อยหรอเต็มที เคยคิดมาตลอดว่า รายได้ก็ถือว่าใช้ได้ และไม่ได้ใช้เงินฟุ่มเฟือย แต่ทำไมมีเงินเก็บแค่นี้เอง เลยคิดว่ากลับมา จดบันทึกรายรับรายจ่าย ดีกว่า...

ยังไม่ทันได้เริ่มจด เพราะยังไม่ได้จ่าย แต่ด้วยความที่ไฟยังแรงอยู่ เลยหยิบบิลค่าน้ำค่าไฟของเดือนเก่า ๆ ขึ้นมา ใส่ตัวเลขลงไปในตาราง Microsoft Excel แล้วลงคำนวณดูว่าปีนึง ๆ ต้องจ่ายเท่าไหร่...

โอ้วววววว ไอ้ที่เคยคิดว่า ถูกนักหนา พอคิดมาเป็นปี ก็ใช่น้อยซะเมื่อไหร่ และแล้วความเครียดเรื่องเงินก็เริ่มรุนแรงขึ้น TT^TT

พอดีพี่ที่บ้าน (บ้านเราอยู่ด้วยกันหลายคน ค่าบ้านค่าน้ำค่าไฟ หารไปเท่า ๆ กัน ก็ประหยัดดี) มาชวนออกไปเดินเล่นที่ห้าง ก็เลยติดรถเขาไปด้วย

แล้วก็เล่าให้เขาฟังว่า กำลังคำนวณค่าใช้จ่ายอยู่ เยอะเหมือนกันนะเนี่ย พี่เขาก็บอกว่า เขาก็เคยทำบัญชี แต่มันก็ไม่ได้ช่วยให้ค่าใช้จ่ายเขาลดลง เขาเลยเลิกทำไปแล้ว และตอนนี้ก็ให้บัตรเครดิตทำให้แทน (เราก็งง) เขาเลยบอกว่า เขาจ่ายอะไรก็จ่ายผ่านบัตรเครดิต อยากดูว่าใช้อะไรไปบ้างก็เข้าไปดู statement เราก็อืม ๆ ไป แต่เรา(ยัง)ไม่คิดจะมีบัตรเครดิต เพราะนอกจากจะเสียค่าบริการ (ที่พี่เขาบอกว่า ยังไงก็คุ้ม) แล้วยังไม่เห็นตัวเงินที่เราจ่ายออกไป ซึ่งจะทำให้เราไม่รู้ว่า เราใช้เงินไปเยอะขนาดไหนแล้ว

โดยส่วนตัว เราชอบที่จะจ่ายเงินสดมากกว่าใช้บัตร เพราะเราจะรู้สึกเศร้าทุกครั้งที่เราต้องหยิบเงินเยอะ ๆ ให้คนอื่น และเศร้ามากขึ้นเมื่อเห็นเงินในกระเป๋าเหลือน้อย ซื่งวิธีนี้ ช่วยให้เราหักห้ามใจได้หลายครั้งแล้ว แต่พอกลับมาถึงบ้าน เราก็รู้สึกดี เพราะความอยากได้ที่มีเมื่อตะกี้ก็หายไปแล้ว และเงินเราก็ยังอยู่ ^^

วันต่อมา...

ได้หนังสือที่ฝากซื้อมาสองเล่ม แต่ดันไปเห็นอีกเล่มนึงที่ผู้ใหญ่ที่นับถือฝากมาให้อ่าน

"เงินไหลมา" ชื่อน่าสนใจ แต่ถ้าเห็นอยู่บนแผงหนังสือ เราคงต้องมองรอบ ๆ ก่อนว่ามีคนอื่นอยู่ใกล้ ๆ หรือเปล่า ถ้าไม่มีค่อยหยิบขึ้นมาดู (ทำยังกะจะดูหนังสือโป๊) กลัวคนอื่นเขามองว่า อยากรวย... (เอ่อ แล้วจะต้องไปสนใจคนอื่นทำไม ก็อยากมีตังค์นี่หว่า คนที่มองไม่ได้ให้ตังค์เราใช้ซะหน่อย อืม ต้องจำไว้...)

เขียนไปเขียนมา ก็นอกเรื่องไปอีกแล้ว (คงเป็นเพราะอย่างนี้ อาจารย์สอนภาษาไทยที่เราสนิทด้วย ถึงบอกว่า ผิดหวังในการเขียนเรียงความของเราอย่างรุนแรง Y^Y) กลับเข้าเรื่อง...

ตอนนี้ไม่ต้องกลัวว่าใครจะมองว่า เราอยากรวยแล้ว ฉะนั้น เราซึ่งอยากรวยก็หยิบมาดูทันที

อ๊ะ หนังสือของ อาจารย์วรากรณ์ สามโกเศศ นี่นา (คนที่เขียน "โลกนี้ไม่มีอะไรฟรี" และอีกมากมาย)
แค่ได้เห็นชื่อคนเขียน คำนิยมใด ๆ ก็ไม่จำเป็นแล้ว เราเปิดดูสารบัญเลย...

แค่สารบัญก็ประทับใจแล้ว วันนี้เลยขออนุญาตเอาสารบัญมาลงใน blog เพื่อเป็นการเตือนใจตัวเอง และเผื่อว่าใครผ่านมาและเห็นว่าน่าสนใจก็นำไปใช้ได้ หรือจะไปอุดหนุนอาจารย์วรากรณ์ต่อก็ตามอัธยาศัย (อาจารย์คงดีใจ)

ภาคที่ 1 ตั้งเป้าหมาย ไปให้ถึง
01 กับดักเวลาและเงินทอง
02 "ชีวิตคู่" กับการจัดการเงินทอง
03 เงินไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่าง
04 อยู่ให้รอดและปลอดภัย
05 จดแล้วไม่จน
06 จงบังคับตนเองอย่างแนบเนียน
07 วางแผน - เริ่มแต่เนิ่น ๆ - เบาภาระ

ภาคที่ 2 ออมวันนี้ มั่งมีวันหน้า
01 จงเป็น"ปู่โสม" มีทรัพย์ให้เฝ้า
02 รู้จัก LTF เพื่อลดภาษี
03 รวย - จน ต่างกันแค่ 2 บาท
04 ฝากเงินอย่างไรดี
05 รถมูลค่า 200,000 บาท ในราคา 1.6 ล้านบาท
06 ความพอดีของความมัธยัสถ์

ภาคที่ 3 ฉลาดซื้อ ฉลาดบริโภค
01 คนป้ำเป๋อกับธนบัตรใบใหญ่
02 อย่านึกว่าบ้านที่ผ่อนเป็นของเรา
03 ปลูกบ้านแล้วบานปลาย
04 ไม่มีอะไรแพงกว่าของถูก
05 อยู่อย่างไรในยามเงินเฟ้อ
06 ช็อปปิ้งอย่างไรไม่บ่อนทำลาย
07 สินค้ามือสองอาจต้องใจ
08 "ความพอใจพิเศษ" มีราคาแพง
09 ทำตัวอย่างไรยามดอกเบี้ย "ขาขึ้น"
10 "ยืด" เงินที่จำกัดอย่างไร

ภาคที่ 4 ระวังหลุมดำของหนี้
01 เผชิญปัญหาเพื่อลดการสูญเสีย
02 รู้จักหนี้ให้ดีก่อนก่อหนี้
03 ความสุขและความทุกข์จากหนี้
04 เศรษฐีอเมริกันเป็นหนี้อย่างมีจุดหมาย

ภาคที่ 5 ลงทุนให้เงินเพิ่มพูน
01 รักษาเงินก้อนอย่างไรไม่ให้สูญ
02 อสังหาริมทรัพย์และหุ้นมีทั้งเหมือนและต่าง
03 คิดก่อนถือเงินสกุลต่างประเทศเพื่อเก็งกำไร
04 รู้ได้อย่างไรว่าลงทุนถูกต้อง
05 ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์มีได้กี่วิธี
06 ซื้อพันธบัตรดีหรือไม่
07 สิ่งที่ควรรู้ก่อนลงทุน

ภาคที่ 6 เก็บเบี้ยใต้ถุนร้าน
01 เงินมีค่าไม่เท่ากันเมื่อเวลาต่างกัน
02 รู้เรื่องเงินจากสำนวนภาษา
03 ทุกอย่างมีเวลาอันเหมาะสม
04 หนทางสู่ความสุข
05 จงอย่าเห็นอย่างที่ตนเองเป็น
06 อย่าประมาทกับแรงจูงใจของมนุษย์
07 หนีความโง่เขลาและเจ็บใจ
08 คาถาแก้จน
09 แม่ครับ เรารวยหรือจน
10 New Year Resolutions
11 เงินเป็นได้ทั้งมิตร ศัตรู ทาส และนาย

นับว่าหนังสือเล่มนี้ได้มาในช่วงเวลาที่เหมาะเจาะจริง ๆ ^^

ถ้าอ่านแล้วมีบทไหนโดน ๆ จะเอามาสรุปไว้ในนี้ละกัน
ถ้าใครอยากให้ "เงินไหลมา" หาไว ๆ ก็ไปอุดหนุนอาจารย์วรากรณ์ตามแผงหนังสือกันเลย

ตอนนี้ เราต้องไปปั่นการบ้านต่อแล้ว ก่อนที่ตังค์ที่ลงทุนเรียนไป จะไหลไปแล้วไม่ไหลกลับมา lol